Thursday, February 09, 2006

ศาสนากับเสรีภาพ (ภาคสอง)

แล้วศาสนากับเสรีภาพก็กลายเป็นวิกฤติระดับนานาชาติไปเสียแล้วครับ เพราะภาพการ์ตูนแท้ๆ ชาวมุสลิมลุกฮือเผาสถานทูตเดนมาร์ก ไล่จับชาวตะวันตกเป็นตัวประกัน แล้วก็จัดประกวดภาพการ์ตูนล้อการฆ่าชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่สอง

หนังสือพิมพ์ตะวันตกก็ไม่น้อยหน้าครับ เขาประท้วงกันอยู่ ก็หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสพิมพ์ภาพการ์ตูนอันเดิมเพื่อพิสูจน์ freedom of speech เพื่อพิสูจน์ประโยคที่ว่า

"I may disagree with what you say but I will defend till death your right to say it."

ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่า เรื่องนี้มี Al Qaeda อยู่เบื้องหลังแบบที่บางคนอ้างหรือเปล่า

แต่ที่แน่ๆ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า free speech ก็ควรมีขอบเขตเหมือนกัน และถ้าอ้าง free speech แบบไม่ลืมหูลืมตามันก็เป็นเรื่องเอาง่ายๆ

บางคนอาจมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระ แต่ถ้าคิดดูเล่นๆว่าถ้าเกิดขึ้นกับสิ่งที่เรานับถือเคารพบูชา อย่างพระพุทธเจ้า หรือในหลวงของเรา คนไทยก็คงโมโหแบบนี้เหมือนกัน (แม้ว่าอาจจะไม่ออกไปเผาสถานทูตคนอื่นก็ตาม)

แต่ผมฟังข่าวแล้วคิดถึง กบ สุวนันท์ ขึ้นมาทันใด...ไม่รู้ทำไม

3 Comments:

At 9:31 PM, Blogger Tanusz said...

ไม่มีเสรีภาพใดที่ไม่มีขอบเขต
เพราะเสรีภาพที่ไม่มีขอบเขตย่อมนำมา
สู่การไม่มีเสรีภาพนั่นเอง

สิทธิและเสรีภาพกับหน้าที่เป็นของคู่กันยิ่งกว่าปาท่องโก๋ คุณมีสิทธิและเสรีภาพที่จะกระทำ
คุณก็ต้องรับเอาหน้าที่ที่จะต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นด้วย

แม้ผมจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการกระทำของชาวมุสลิมที่สุดโต่งเกินไป แต่ผมเห็นว่าฝั่งตะวันตกต่างหากที่เป็นคนจุดชนวน เอาแต่กล่าวอ้างแต่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่กลับละเลยหน้าที่ที่จะเคารพสิทธิของบุคคลอื่น

และหวังว่าคงไม่มีสื่อมวลชนไทยเจ้าไหนเอาการ์ตูนเจ้าปัญหามาเผยแพร่นะครับ

 
At 1:15 PM, Blogger Saruj said...

ผมว่า "ตะวันตก" มักจะมีปัญหากับการเข้าใจโลกอยู่เสมอๆนะ .. ว่าไหม?

คนตะวันตก มักมองโลกอย่างตะวันตก ด้วยมุมมองแบบตะวันตก
เผลอๆจะคิดเอาด้วยซ้ำว่าโลกนี้มีความจริงแท้ที่ดีที่สุดอยู่อย่างเดียวในแบบตะวันตก

ด้วยมุมมองที่ค่อนข้างหยาบแบบนี้
ผมคิดว่าคนตะวันตกมักมีปัญหาในการมองเรื่องต่างๆที่มันละเอียดอ่อน
ตัวอย่างที่มากมาย ของความล้มเหลวทางการตลาดแนวตะวันตก ในประเทศที่มี strong culture เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดว่าความคิดแบบตะวันตก ไม่ได้เป็น universal truth เสมอไป

สำหรับเรื่องนี้ก็อีกเช่นกัน
ผมไม่ค่อยสงสัยในปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเท่าไหร่ จัดว่าเป็นผลที่เดาได้ไม่ยาก ทั้งผลโดยตรง และผลจากพวกที่จ้องจะ "ผสมโรง"

แต่ที่ผมสงสัยคือ
ไอ้คนเขียน ไปจนถึงคนตีพิมพ์นี่สิ มันเขียนไปได้ยังไง๊ ... ตีพิมพ์ไปได้ยังไง๊ ...

ทำไปด้าย ...

 
At 3:31 AM, Anonymous Anonymous said...

ท่านมองภาพของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคมของประเทศไทยในปัจจุบันอย่างไรครับ

 

Post a Comment

<< Home