Tuesday, December 27, 2005

ศาสนากับเสรีภาพ?

สุขสันต์วันหยุดครับ ขอให้มีความสุขกันมากๆนะครับ

เดี๋ยวนี้ที่นี่เขาแนะนำกันว่า อย่าทักทายคนที่เราไม่รู้จักว่า Merry Christmas นะครับ เพราะมันเป็นคำทักทายที่ "politically incorrect" เพราะเราอาจจะไปพูดกับคนศาสนาอื่นที่ไม่นับถือ Jesus Christ (ว่าๆไป เมืองไทยไม่เห็นจะมีปัญหาเลยทั้งๆที่มีคนนับถือคริสต์อยู่ไม่มาก แต่เห็นพูด Merry Christmas กันทั่วบ้านทั่วเมือง)

แต่ประเทศนี้ เรื่องศาสนากลายเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการแยกกันระหว่างรัฐกับศาสนา เมื่อไม่นานมานี้ศาลหลายแห่งโดนสั่งปลดป้ายบัญญัติสิบประการที่ติดอยู่หน้าศาลลง หรือโรงเรียนหลายแห่งโดนสั่งห้ามไม่ให้มีพูดสิ่งที่เกี่ยวกับศาสนา เพราะทำให้นักเรียนที่ไม่นับถือศาสนาคริสต์ไม่สบายใจ

คงคล้ายๆกับเวลาที่เราสวดมนต์หน้าเสาธง เพื่อนๆศาสนาอื่นคงไม่สบายใจ(แต่ผมจำได้ว่าเพื่อนๆที่นับถือศาสนาอื่นก็ยืนเฉยๆ ไม่เห็นเขาจะว่าอะไรนี่ครับ)

แล้วก็เรื่อง Intelligent Design กลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตขึ้นมาอีก เพราะโรงเรียนบางแห่งบังคับให้นักเรียนเรียนเรื่อง Intelligent Design ก่อนเรื่องวิวัฒนาการในวิชาชีววิทยา (Intelligent Design เป็นแนวความคิดที่ว่าบางสิ่งในจักรวาล โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิต ต้องมี "อะไรสักอย่าง" เป็นผู้ออกแบบแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่ออกมาได้เลิศเลอเพอร์เฟ็คขนาดนี้ บางคนที่เชื่อในพระเจ้า ก็คิดว่าพระเจ้านี่แหละ เป็นผู้ออกแบบทุกอย่าง)

จนทำให้ผู้ปกครองบางคนที่ไม่เชื่อในเรื่องนี้ ไปร้องเรียนให้โรงเรียนยกเลิกข้อบังคับดังกล่าว จนกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต ถึงกับมีการลงมติกันเลย จนนักการเมืองบางคนถึงกับให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าวันหลังเมืองถูกพระเจ้าลงโทษ ก็ไปสวดมนต์ให้ Charles Darwin ช่วยแล้วกัน อย่าร้องขออะไรจากพระเจ้าอีก

ว่าเข้าไปนั่น

ผมว่าอีกสักพักคงต้องมีการฟ้องร้องให้เอาคำว่า In God We Trust ออกจากธนบัตรทุกใบแน่ๆเลย

บางทีเสรีภาพในการนับถือศาสนาก็ไม่ได้ ได้มาง่ายๆนะครับ เพราะขอบเขตของเสรีภาพของคนหลายศาสนามันดันไปทับกัน

หรืออย่างในฝรั่งเศส ด้วยความตั้งใจที่ไม่อยากให้คนแสดงความแตกต่างของศาสนาออกมา จนนำไปสู่กับห้ามนักเรียนใส่ที่คลุมศีรษะไปโรงเรียน ก็กลายเป็นเรื่องอีกครับ

จนมีคนบอกผมว่า อย่าเอาเรื่องศาสนาขึ้นมาคุยบนโต๊ะอาหาร เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า สิ่งที่เราพูดไปจะไปละเมิดใครเข้าหรือเปล่า

แต่ถึงไม่พูดหลายๆคนก็คงรู้อยู่ดีครับว่า ความแตกต่างทางศาสนานี่แหละครับ นำไปสู่สงครามและความขัดแย้งมาไม่รู้เท่าไรแล้ว

ผมว่าเมืองไทยโชคดีนะครับ ที่หลายๆศาสนาอยู่ร่วมกันได้ โดยมีความขัดแย้งค่อนข้างน้อย (ตรงนี้หลายคนคงเถียงผมแน่ๆว่าแล้วทางใต้ละ อันนั้นก็เถียงกันได้ครับ แต่ผมว่าต้นเหตุของความขัดแย้งตรงนั้น ไม่ได้เกิดจากความแตกต่างทางศาสนาแต่อย่างเดียวนะสิครับ แต่รวมไปถึงความแตกต่างทางเศรษฐกิจ และอุดมการณ์ทางการเมืองด้วย และถ้าไปเทียบกับบางประเทศแล้ว ผมว่าเมืองไทยโชคดีแล้วครับ)

ก็หวังครับ สักวันเราคงหาวิธีอยู่ด้วยกันได้ โดยเข้าใจและยอมรับความแตกต่างของคนต่างศาสนาและวัฒนธรรม และไม่ต้องกวาดสิ่งเหล่านี้เข้าไปใต้พื้นตลอดเวลานะครับ

***********************************

ใครยังไม่ได้ฟังสุนทรพจน์จากท่านผู้นำ แนะนำให้เข้าไปฟังอย่างยิ่งครับ ที่นี่ครับ

ท่านเปิดเผยความในใจหลายๆอย่าง โดยเฉพาะสาเหตุที่ท่านต้องประกาศสงครามกับยาเสพติด ฟังแล้วน่าคิดมาก

2 Comments:

At 11:09 PM, Blogger Saruj said...

สำหรับบรรยากาศในสหรัฐฯ ผมว่าก็คนในสหรัฐฯเองนั่นแหละที่มีส่วน (ไม่มาก ก็น้อย) ทำให้เรื่องพวกนี้มันกลายเป็นเรื่อง "ละเอียดอ่อน" มากขึ้น

(( ทั้งที่โดยธรรมชาติของเรื่องพวกนี้ก็ละเอียดอ่อนมากอยู่แล้ว))

จำได้แม่นว่าตอนเลือกตั้งประธานาธิปดีโค้งสุดท้าย นายพุ่มไม้ก็ดึง "ฟ้า" มาช่วยหาเสียงด้วยนิ


ไม่รู้เหมือนกันว่าจะลำเอียงไปไหมที่จะบอกว่าระหว่างซีกโลกตะวันตกกับตะวันออก
ตะวันตกดูเหมือนจะมีปัญหากับใครก็ตามที่ผิวไม่ขาว หรือไว้พระเจ้าคนละองค์ กับตัวเองมากกว่าคนตะวันออกมากนัก

 
At 10:18 AM, Blogger kickoman said...

จริงครับ ความที่ทุกคนเชื่อว่าตัวเองมี "เสรีภาพ" (มากเกินไป?) ทำให้บางทีก็ไปละเมิดเสรีภาพคนอื่น แล้วกลายเป็นเรื่องกระทบกระทั่งกัน จนเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเข้าไปใหญ่

เมื่อเช้านี้ก็มีอีกครับ หนังสือพิมพ์ลงว่า สมาคมที่เกี่ยวกับศาสนาในมหาลัยบางแห่งในรัฐแคลิฟอร์เนียฟ้องศาลให้มหาลัยยกเลิกกฎห้าม discriminate สมาชิกด้วยเหตุผลทางศาสนา

เพราะคือเขาอยากให้สมาชิกสมาคมเขาเป็นพวกที่นับถือศาสนาเดียวกัน แต่ทางมหาลัย (ด้วยความหวังดี เพราะรัฐแคลิฟอร์เนียขึ้นชื่อเรื่องการห้ามการกีดกันด้วยเหตุผลใดๆอยู่แล้วครับ) มีกฎออกมาห้ามไม่ให้กีดกันการรับสมาชิกด้วยเหตุผลทางศาสนา

เออ แบบนี้ก็มีด้วย

แต่ผมว่าบางทีก็เรื่อง "ปัญหา" ก็ไม่ได้มีแต่พวกตะวันตกนะครับ ลองดูอย่างอินเดียสิครับ คนฮินดู จะไม่ค่อยสุงสิงกับคนมุสลิม หรืออย่างดีก็เป็นเพื่อนกันได้ แต่จะไม่ยอมรับการแต่งงานข้ามศาสนาโดยเด็ดขาด คือมันมีอะไรอยู่ลึกๆนั่นแหละครับ

 

Post a Comment

<< Home