Thursday, September 01, 2005

พายุ

หลายๆคนคงได้ฟังข่าวพายุ hurricane Katrina ขึ้นฝั่งที่ตอนใต้ของสหรัฐอเมริกากันแล้ว เจ้าพายุลูกนี้เป็นพายุ hurricane ที่รุนแรงที่สุดและทำความเสียหายให้กับอเมริกามากที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว

ใครดูข่าวช่วงนี้คงเห็นร่องรอยความเสียหายที่เกิดจากพายุ ทั้งบ้านที่โดนพัดหายไปทั้งหลัง ระดับน้ำท่วมสูงเท่าหลังคา ตึกที่โดนพายุพัดกระจกแตกทั้งหลัง รถยนต์ที่จมอยู่ใต้น้ำ เมืองหลายๆเมืองแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง แม้แต่หลังคา Superdome ที่เคยใช้แข่ง Super Bowl ยังโดนพัดทะลุเลยครับ คนแสนกว่าไม่มีที่อยู่หรือกลับเข้าบ้านตัวเองไม่ได้ จนต้องหา shelter อยู่ และกว่า 2 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้

จนคนที่นี่เขาบอกว่านี่แหละ คือ tsunami ของอเมริกา

แม้พายุจะผ่านไปแล้ว แต่ความเสียหายยังไม่หมดครับ เพราะทางตอนใต้ของอเมริกา พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล พายุทำให้เขื่อนที่กั้นแม่น้ำและทะเลสาบพัง และน้ำที่ทะลักเข้ามาเกินกว่าที่เครื่องสูบน้ำจะสูบออกได้ เมือง New Orleans ทั้งเมืองเลยกลายเป็นเมืองบาดาลไป คาดว่าจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าระดับน้ำจะแห้ง ระหว่างนี้คนที่อาศัยอยู่แถวๆนั้นต้องกลายเป็นผู้อพยพจำเป็น ต้องเดินทางข้ามรัฐเพื่อหลบภัย และยังไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะกลับเข้าบ้านได้

เรียกได้ว่าเป็นปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดของอเมริกาเลยทีเดียว สิ่งที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือโรคระบาด และวิธีที่จะเอาความช่วยเหลือทั้งน้ำสะอาด อาหาร เครื่องนุ่งห่ม เข้าไปให้ หลายคนยังไม่รู้เลยว่าจะนอนที่ไหน และก็เริ่มมีคนบ่นว่าทำไมความช่วยเหลือสักที และก็เริ่มมีคนเสียชีวิตระหว่างอยู่ใน "ค่ายอพยพ"แล้วครับ ดูข่าวแล้วก็เศร้าแทนครับ

นอกจากนั้น เจ้าพายุยังทำให้ราคาน้ำมันในอเมริกาพุ่งกระฉูด จากที่แพงอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นป้าย $3 ต่อ gallon แล้วครับ ซี๊ด

พอมีภัยธรรมชาติ สิ่งที่ตามมาก็คือพวกฉวยโอกาส ปล้นสะดมร้านค้า เพราะตำรวจไม่มีปัญญาจัดการ คิดดูว่า ผู้ว่าการรัฐถึงกับต้องสั่งให้ตำรวจที่ช่วยอยู่ในภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิต หันกลับมาดูแลความสงบในเมืองแทน แทนที่จะสามารถทุ่มเททรัพยากรในการค้นหาผู้รอดชีวิต กลับต้องมาพะวงกับพวกเลวๆ พวกนี้อีก และมีข่าวว่าเกิดความวุ่นวายระหว่างการอพยพและช่วยเหลือ ขนาดโรงพยาบาลยังโดนคนเข้าไปขโมยของเลย

ไม่รู้เพราะว่าคนที่นี่โหดกว่าเมืองไทยหรือเปล่า แต่ผมว่าตอนเมืองไทยโดน tsunami ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงขนาดนี้เลย และการช่วยเหลือก็ดูเหมือนจะราบรื่นกว่านี้นะ

ภัยพิบัติแบบนี้ เกิดขึ้นทีนึงก็ทำความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ดีแต่ว่าคนเราสามารถพยากรณ์การเกิดพายุ hurricane ได้อย่างค่อนข้างแม่นยำ และล่วงหน้าพอที่จะอพยพคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยได้ทัน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตไม่สูงเหมือนเวลาเกิดแผ่นดินไหว หรือ tsunami แบบบ้านเรา แต่ถึงอย่างนั้น มีการคาดการณ์ว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจพุ่งสูงถึงพันคนเอาได้ง่ายๆ เพราะระหว่างนี้ระดับน้ำสูง หน่วยกู้ภัยยังไม่สามารถเข้าไปตรวจดูในบ้านคนที่คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ได้ เศร้าครับ

ก็ขอให้น้ำลดเร็วๆ และกลับเข้าบ้านได้เร็วๆแล้วกันครับ แม้บางคนบ้านจะหายไปแล้วก็เหอะ


พอได้ยินชื่อ Katrina นี้ตลอดวัน หลายๆคนต้องสงสัยแน่ๆว่า Katrina นี่มันใครกันนะ แล้วเจ้าพายุ hurricane นี่มันเกิดได้อย่างไร แล้วมันต่างกับพายุดีเปรสชั่น พายุโซนร้อน พายุใต้ฝุ่น พายุไซโคลน ที่เราได้ยินกันบ่อยๆยังไง

จริงๆแล้วเจ้าพายุที่กล่าวมาทั้งหลายเนี่ย เกิดจากสาเหตุเดียวกัน คือความแตกต่างของอุณหภูมิและความกดดันอากาศ บวกกันความชื้นจากทะเล เมื่อพายุเริ่มก่อนตัวในทะเลเขตร้อน อากาศร้อนชื้นจากผิวน้ำทะเล (ส่วนใหญ่เกิดจากทะเลใกล้เส้นศูนย์สูตร) ซึ่งมีความกดอากาศต่ำ ลอยตัวสูงขึ้น ทำให้อากาศเย็น ซึ่งความกดอากาศสูงพัดเข้ามาแทนที่ (ไปดูภาพประกอบได้ที่นี่ครับ)

พอพายุก่อตัวได้ที่ ถ้าความเร็วลมไม่ถึง 39 mph ก็จะได้ชื่อว่าเป็น พายุดีเปรสชั่น (tropical depressions) ที่ได้ยินกันบ่อยๆตอนดูพยากรณ์อากาศ พอความเร็วลมสูงสุดเกิน 39 mph แต่ไม่เกิน 74 mph เจ้าพายุก็จะถูกจัดชั้นว่าเป็นพายุโซนร้อน (tropical storm) ครับ และก็จะได้ "ชื่อ" เอาไว้เรียกกันครับ และชื่อนี้ก็จะต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคของโลก

พอความเร็วลมสูงสุดของพายุเกิน 74 mph ก็จะเรียกว่าเป็น tropical cyclone หรือพายุหมุนเขตร้อน ครับ แต่จะเรียกชื่อต่างกันไป ตามแต่บริเวณที่เกิดครับ ถ้าเจ้าพายุหมุนนี้เกิดแถวๆมหาสมุทร atlantic และทางตะวันออกของเส้นแบ่งวันในมหาสมุทร pacific จะเรียกว่า hurricane แต่ถ้าเกิดแถวๆบ้านเรา ในมหาสมุทร pacific และทะเลจีนใต้ ก็จะเรียกว่าไต้ฝุ่นครับ

กลับมาที่เรื่อง "ชื่อ" ของพายุครับ พายุโซนร้อน ที่เกิดในมหาสมุทร Atlantic จะใช้ชื่อคนเรียงกันไปจาก A ถึง Z และจะเอากลับมาใช้ซ้ำทุกๆ 6 ปี แต่ถ้าพายุลูกไหนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น พายุ hurricane Andrew ตอนปี 92 หรือ hurricane Isabel เมื่อปี 2003 ชื่อพายุเหล่านี้ก็จะถูก "retired" และเอาชื่ออื่นมาแทนตัวอักษรตัวนั้น ผมแน่ใจว่า Katrina ก็ต้องโดน retired แน่ๆ โหดซะขนาดนี้

สมัยก่อนที่จะมีระบบการตั้งชื่อ hurricane เขาเรียก hurricane ตาม saint ของวันที่พายุขึ้นฝั่ง หรือไม่ก็ใช้ latitude-longitude แต่มันสับสนไปหน่อย เขาก็เลยตั้ง "ชื่อ" ให้พายุซะเลย ทำให้การสื่อสารรวดเร็วและชัดเจนขึ้น แรกๆก็ใช้แต่ชื่อผู้หญิง แต่ภายหลังก็ใช้ชื่อผู้ชายด้วย จะได้เท่าเทียมกัน

ส่วนพายุแถวบ้านเราก็มีชื่อนะครับ (จำได้ไหมครับ "พายุเกย์" ที่พัดเข้าที่ประจวบฯเมื่อหลายปีก่อน) แต่อาจจะไม่ใช่ชื่อคน แต่เป็นชื่อที่แต่ละประเทศแถวๆนี้เสนอให้เอามาใช้ ลองไปดูชื่อแต่ละชื่อสิครับ เท่กว่าชื่อคนเป็นไหนๆ

ส่วน Tornado นี่ต่างไปจากพายุหมุนเขตร้อนอื่นๆครับ tornado เป็นพายุหมุนที่เกิดจากพายุฝนฟ้าคะนอง คือประมาณว่า มันไม่ได้หมุนมาแต่ไกลแบบ hurricane แต่อยู่ดีๆ มันก็ touchdown แบบในหนังเรื่อง twister ยังไงยังงั้น
ส่วนใหญ่เกิดในทวีปอเมริกาเหนือ ผมไม่แน่ใจว่าเกิดที่อื่นด้วยหรือเปล่า ใครสนใจไปอ่านเพิ่มได้ที่ NOAA ครับ

พวกพายุเหล่านี้เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพราะโลกหมุนและโลกเอียง แต่ก็เริ่มมีคนถามกันแล้วว่าที่เราเจอพายุโหดๆบ่อยๆนี่เกี่ยวอะไรกับปรากฎการณ์โลกร้อนขึ้นหรือเปล่า อืม น่านะคิดครับ

6 Comments:

At 8:03 AM, Blogger kickoman said...

ยิ่งดูข่าวยิ่งเศร้าครับ ตอนนี้วุ่นวายมากๆ

แปลกดีเหมือนหนังสือพิมพ์เมืองไทยไม่ค่อยลงข่าวนี้เลย

คนอเมริกาเริ่มบ่นแล้วครับ

“This is a national disgrace,” said New Orleans’ emergency operations chief Terry Ebbert. “We can send massive amounts of aid to tsunami victims, but we can’t bail out the city of New Orleans.”

 
At 1:08 PM, Anonymous Anonymous said...

ของญี่ปุ่น มีชื่อพายุ "ก๊อตซิลล่า" (Kujira) ด้วยแฮะ

ของไทยยิ่งฮา แต่รู้สึกว่าเจ้า "ทุเรียน" นี่เล่นเอาจีนอ่วมไปเลย...

ส่วนของลาวมีพายุ "ฟ้าใส" (Faxai) ใครโดนเข้าไป คงใสไม่ออก

เรื่องผู้ประสบภัย ผมรู้สึกว่า อันที่จริงสังคมไทย แม้จะเอาแน่เอานอนไม่ได้ แม้อาจจะดูไม่ค่อยมีระเบียบวินัย ตามกระแส หูเบา ฯลฯ

แต่พอมีภัย เช่นตอนสึนามิ ผมว่าคนไทยนี่ความเป็น"มนุษย์" สูงกว่าอีก ในเกณฑ์เฉลี่ยนะครับ

คือพวกซ้ำเติมกันเองก็มี แต่น้อย
และเรายอม "อดทน" และทำความเข้าใจกับความช่วยเหลือที่ล่าช้ากันได้มากกว่า
(ไม่รู้อดทนหรือจำทน) ซึ่งมันกึ่งๆจะไม่ดี คือเหมือนยอมจำนน แต่บางครั้งมันก็ทำให้วิกฤตผ่านไป

นอกจากนั้น คนไทยเราเองกช่วยกันเองเยอะครับ

ข่าวของอเมริกาทำให้เศร้าใจ เพราะเมื่อภัยมา มนุษย์ที่เคยดีๆ ในยามสงบ ส่วนใหญ่แปลงเป็นสัตว์กัน ปล้นกันเอง ฆ่ากัน ข่มขืน

ไปเจอภาพผู้หญิงชรา พิการ ตายคาวีลแชร์ แล้วก็ทิ้งศพไว้อย่างนั้น ผมแน่ใจว่า ไม่มีทางจะเกิดภาพนี้ในประเทศไทยครับ

 
At 1:30 PM, Blogger kickoman said...

ผมยังสงสัยว่าที่นี่มันเกิดอะไรขึ้น สามสี่วันแล้วยังไม่เห็นว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้เลย ดูภาพแล้วน่ากลัวจริงๆ

ไม่รู้ว่าจะบ่นใคร เห็น mayor ก็ออกมาด่า federal government และเจ้าหน้าที่อื่นๆว่า ความช่วยเหลือไม่ถึงสักที "Excuse my French, everybody in America, but I am pissed.”

แล้วก็เห็น Bush ออกมาบอกว่า overall the relief “results are not acceptable”

จริงๆทหาร หรือ national guard น่าจะลงไปตั้งเต๊นท์ ได้ตั้งแต่วันแรกๆแล้วนะ นี่จะย้ายคนออกจาก superdome ยังหารถมาขนคนไม่ได้เลย

ผมว่าคนไทยอดทน "รับสภาพ" ได้ดีกว่าจริงๆแหละ ไม่รู้ว่าสื่อไทยไม่ได้ฉายให้ดูหรือเปล่า แต่ผมไม่เห็นจะมีคนไทยบ่นเลยว่า "ร้อนนะ นี่ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งสามวันแล้ว มันร้อนนะ"

ที่น่าตกใจคือมีคนเลวๆไปดักยิงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่เขามาช่วย ไปข่มขืนคนที่เดือดร้อนเหมือนกัน บุกเข้าไปขโมยทีวี มันบ้าเปล่าวะ ไฟก็ไม่มี จะเอาไปดูอะไร

สิ่งที่คิดแล้วยิ่งปลื้มที่เกิดเป็นคนไทย คือ พอเกิดเหตุแว๊บเดียว มีคนต่างบ้านต่างเมืองลงไปช่วยกันเต็มไปหมด ทั้งๆที่ไม่ได้มีหน้าที่เลย

ที่นี่ขนาด red cross โทรศัพท์ไปยังมีคนรับโทรศัพท์ไม่พอเลย

 
At 4:20 AM, Anonymous Anonymous said...

สำหรับผม ...
เรื่องนี้สะท้อนสังคมอเมริกันได้อย่างชัดเจนจริงๆ ...

 
At 3:33 AM, Anonymous Anonymous said...

น่าสงสารคนที่ประสบเคราะห์กรรมจริง ๆ ๆ รัฐบาลกลางช่วยเหลือช้าไปหน่อยครับ ในความเห็นของกระผมนะ

 
At 9:27 PM, Anonymous Anonymous said...

น่าสงสารคนจนนะคะ เมืองนี้คนรวยส่วนใหญ่อยู่ที่สูง (เหมือนเมืองอื่นๆ มั๊ง คือยิ่งอยู่บนเขาหรือติดน้ำ วิวยิ่งดี ที่ก็เลยแพง) บ้านคนจนอยู่ต่ำเลยแย่ :(
แต่อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าพายุถล่มเมืองใหญ่ๆ ที่คนขาวอยู่เยอะ เช่น LA หรือ San Francisco รัฐบาลคงช่วยกุลีกุจอช่วยเร็วกว่านี้เยอะ อันนี้เห็นด้วยกับเพื่อนชาวอเมริกันหลายๆ คน ที่ e-mail มาบ่นให้ฟังค่ะ

 

Post a Comment

<< Home